ช่วงนี้ฝนตกเกือบทุกวัน บางวันก็ตกหนักมาก ... การขับรถในฤดูนี้จึงต้องเพิ่มความระมัดระวังเป็นพิเศษ เพราะถนนทั้งลื่น แถมเวลาที่ฝนตกหนักมองอะไรก็ไม่ค่อยชัด อันตรายเสี่ยงรถชนกันก็มีสูง ดังนั้นเรามาดูวิธีเตรียมพร้อมกันหน่อยนะครับ
5 วิธีแก้ปัญหาเมื่อต้องขับรถในวันที่ฝนตกหนัก
1. ก่อนใช้รถยนต์ในการเดินทาง ควรทำการเช็ค 3 อย่างนี้ทุกครั้ง
- ใบปัดน้ำฝน ว่ายังใช้งานได้ปกติได้ทุกระดับความเร็ว และปัดน้ำฝนได้สะอาด
- สัญญาณไฟต่างๆ เช่น ไฟหน้า ไฟฉุกเฉิน ไฟเบรก และไฟเลี้ยว เพื่อส่งสัญญาณบอกรถคันหน้าและรถหลังเราให้มองเห็นได้อย่างชัดเจน
- ยางรถยนต์ ควรเติมลมยางให้แข็งกว่าปกติ 2-3 ปอนด์ เพื่อให้ยางรีดน้ำได้เร็วขึ้นและเกาะพื้นถนนมากขึ้น
2. กระจกมองไม่ชัด โดยเฉพาะช่วงที่ฝนเริ่มตกใหม่ๆ เพราะน้ำจะผสมกับคราบฝุ่นบนกระจกกลายเป็นน้ำโคลนเหนียวๆ วิธีแก้คือใช้น้ำฉีดกระจกล้างคราบออก และไม่ควรฉีดน้ำขณะขับรถด้วยความเร็วสูง เพราะขณะที่ยังมองเห็นไม่ชัดเจนอาจทำให้เกิดอุบัติเหตุได้
3. ท้องฟ้ามืดครึ้มแสงน้อย ให้เปิดไฟรถทั้ง หน้า-หลัง เพื่อเพิ่มการมองเห็นและให้รถคันอื่นมองเห็นเรา ควรเปิดไฟหน้าแบบต่ำ เพราะถ้าเปิดไฟสูง สายฝนจะสะท้อนกลับมายังผู้ขับมากจนมองเส้นทางข้างหน้ายาก
4. ถนนลื่น ซึ่งมักจะเกิดขึ้นช่วงที่ฝน ตกใหม่ๆ เพราะคราบฝุ่นและโคลนที่ติดอยู่บนถนนถูกชะล้างด้วยน้ำฝน วิธีการแก้ไขคือ ลดความเร็วของรถให้อยู่ที่ 60 ก.ม./ช.ม. และไม่ควรเบรกรถแบบกระชั้นชิด ใช้การแตะเบรคเบาๆ จะปลอดภัยกว่า
5. กระจกเป็นฝ้า การเกิดฝ้าหรือไอน้ำที่กระจกมีสาเหตุมาจากอุณหภูมินอกรถและภายในรถแตกต่างกัน ฝ้าเกิดขึ้นง่ายโดยเฉพาะช่วงฝนตก
- ถ้าฝ้าเกิดในรถ แสดงว่าในรถร้อนกว่าอากาศด้านนอก วิธีแก้คือเปิดแอร์ให้เย็นขึ้น
- ถ้าฝ้าเกิดนอกรถ แสดงว่าในรถเย็นกว่าอากาศด้านนอก วิธีแก้คือลดแอร์ให้เย็นน้อยลง
ขอให้ทุกคนขับรถในหน้าฝนด้วยความระมัดระวัง และเดินทางถึงเป้าหมายอย่างปลอดภัยทุกคนครับ
เครื่องจั๊มสตาร์ท
คุณภาพ มาตราฐาน USA
เพิ่มเราเป็นเพื่อน
add line ติดตามข่าวสาร
โปรโมชั่นส่วนลดสินค้า !