1. เครื่องเย็น สตาร์ทติดยาก
การที่เราจอดรถทิ้งไว้เป็นเวลาหลายวัน หรืออาจจะถึงขั้นหลายสัปดาห์ หลายเดือน เมื่อกลับมาใช้รถอีกที ปรากฏว่าสตาร์ทรถเท่าไหร่ก็ไม่ติด
หากเกิดอาการแบบนี้สันนิษฐานได้ว่า แบตเตอรี่อาจจะเสื่อม ลองเช็คด้วยการจัมป์แบตเตอรี่ หรืออาจจะมีปัญหาเกี่ยวกับระบบจุดระเบิดและระบบจ่ายเชื้อเพลิง
3. เครื่องสั่นจนดับ
เคยไหมเวลาที่ขับรถออกจากบ้านแล้วอยู่ดีๆ เครื่องยนต์ก็สั่น มีเสียงประหลาดๆ ดังแล้วก็ดับไป...ถ้าเกิดเหตุการณ์แบบนี้ อย่าเพิ่งตกใจ ให้เราตั้งสติแล้วลองสตาร์ทรถอีกครั้ง แล้วลองเร่งเครื่องให้แรงขึ้น เพราะเครื่องยนต์อาจจะเดินรอบไม่ถูกก็ได้
หากเครื่องยังมีอาการสั่นจนดับอยู่อีก แนะนำให้ช่างตรวจดูเพราะอาจจะเกิดจากสาเหตุอื่น เช่น กรองเบนซินตัน, มีน้ำเจือปนในน้ำมันเชื้อเพลิง, ระบบจ่ายกระแสไฟมีปัญหา, ระบบควบคุมไอเสียมีปัญหา, หัวเทียนบอดหรือระยะเขี้ยวหัวเทียน ไม่ได้ขนาด
5. เสียงเบรก
ทุกครั้งที่เราเหยียบเบรก ปกติแล้วจะไม่มีเสียงเกิดขึ้นแต่อย่างใด แต่ถ้าเวลาเบรกแล้วมีเสียงโลหะเสียดสีกันดังขึ้น ให้สันนิษฐานว่าผ้าเบรกของคุณน่าจะเสื่อมสภาพแล้ว ซึ่งเราแนะนำให้รีบไปเปลี่ยนเพราะทุกครั้งที่เบรก การเสียดสีจะทำให้เกิดความร้อน ซึ่งทำให้เบรกสึกหนักขึ้นเรื่อยๆ และถ้าปล่อยไว้จะเป็นอันตรายได้ในที่สุด
6. รอยน้ำมันหยด
รอยน้ำมันที่หยดลงบนพื้นจะแสดงให้เห็นถึงตำแหน่งการรั่วซึมของระบบหล่อลื่น ไม่ว่าจะเป็นซีลอ่างน้ำมันเครื่องเสื่อมสภาพ ปะเก็นน็อตถ่ายน้ำมันเครื่องแตก หรือฝาครอบวาล์วรั่ว ซึ่งเมื่อพบความผิดปกนี้ ต้องรีบหาตำแหน่งรั่วซึมให้เจอและยกหน้าที่ให้ช่างช่วยแก้ไขโดยเร็ว
7. ควันจากท่อไอเสีย
ปกติแล้วรถยนต์จะไม่มีควันออกมา หากมีควันดำหรือควันขาวออกมาก็จะเกิดได้หลายสาเหตุ เช่น การเผาไหม้ไม่สมบูรณ์, น้ำมันเครื่องหลุดเข้าห้องเผาไหม้, ระบบกรองไอเสียอุดตัน, ระบบจ่ายน้ำมันอุดตัน, เครื่องหลวม และอีกหลายสาเหตุ ซึ่งถึงเราจะไม่เห็นท่อไอเสียเวลาขับรถ แต่บางจังหวะที่เราติดเครื่องไว้แล้วลงจากรถมาหยิบของหรือทำอะไรก็ตามเป็นระยะเวลาสั้นๆ ให้สังเกตส่วนนี้ของรถด้วย
เครื่องจั๊มสตาร์ท
คุณภาพ มาตราฐาน USA
เพิ่มเราเป็นเพื่อน
add line ติดตามข่าวสาร
โปรโมชั่นส่วนลดสินค้า !