สำหรับบางคนที่อยากรู้ว่าโช๊คอัพรถยนต์เริ่มมีปัญหาแล้วหรือยัง สามารถเช็กได้ง่ายๆ ด้วยวิธีเหล่านี้
1. ใช้มือกดลงไปที่ฝากระโปรงหน้ารถแล้วปล่อย สังเกตดูว่ารถมีอาการเด้งขึ้นลงหลายครั้งหรือไม่ เพราะหากรถเด้งขึ้นลงหลายครั้ง แสดงว่าโช๊คอัพรถยนต์เสื่อมสภาพแล้ว แต่ถ้ากดลงไปแล้วไม่มีอาการเด้งขึ้นลงหลายครั้ง โช๊คคืนตัวปกติ แสดงว่าโช๊คยังดีอยู่
2. ตรวจสอบตัวโช๊คอัพ มีอาการผิดรูปทรง แกนโช๊คคดงอ กระบอกโช๊คบิดเบี้ยว หรือมีรอยบุบตรงไหนหรือไม่
3. ตรวจหารอยรั่วน้ำมัน หากมีร่องรอยของคราบน้ำมัน หรือมีคราบน้ำมันเปื้อนบริเวณแกนโช๊ค แสดงว่าโช๊คมีปัญหาแล้ว
4. เมื่อเริ่มออกตัวรถและเบรก ขณะออกรถตัวด้วยความเร็วปกติ หน้ารถมีอาการเชิดขึ้น และเมื่อเบรคขณะใช้ความเร็วต่ำ หน้ารถทิ่มลง
5. เมื่อขับผ่านเนิน ลูกระนาด ทางขรุขระ รถมีอาการเด้งไปมา เด้งขึ้นๆ ลงๆ หลายครั้ง
6. ขณะวิ่งใช้งานที่ความเร็วตั้งแต่ 80กิโลเมตรต่อชั่วโมงขึ้นไป รถจะมีอาการร่อน ส่ายไปมา เมื่อถูกลมปะทะที่ด้านข้าง
7. เมื่อขับรถตกหลุม จะมีอาการโยนตัวมากกว่าปกติ
8. ตรวจสอบหลังดับเครื่องยนต์ทันที ด้วยการใช้มือยื่นเข้าไปแตะกับตัวกระบอกโช๊คอัพ หากสัมผัสแล้วมีความร้อนโช๊คอัพยังคงปกติ แต่ถ้าแตะแล้วไม่มีความร้อนใดๆ แสดงว่าโช๊คอัพเสียแล้ว
9. สังเกตดูที่ยางรถยนต์ หน้ายางไม่เรียบ สึกเป็นบั้งๆ ไม่เท่ากัน
ส่วนวิธีแก้ไขก็ไม่ยุ่งยาก มี 2 ทางให้เลือก แต่หลักๆ จะอยู่ที่งบประมาณของคุณมากกว่า ว่าจะเลือกแบบไหน
1. อัดโช๊คใหม่ ด้วยการเปลี่ยนถ่ายน้ำมันภายในกระบอกใหม่ทั้งหมด รวมไปถึงการเปลี่ยนซีลยางต่างๆ ด้วย ซึ่งราคาค่าทำคิดเป็นต่อต้น (โช๊คอัพรถยนต์มี 4 ต้น) ประมาณ 500 – 1,000 บาท (ราคาอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้แล้วแต่ร้าน)
2. เปลี่ยนโช๊คใหม่ ก็ไม่ต้องทำอะไรมาก แค่รอจ่ายตังค์อย่างเดียว
สุดท้ายนี้คุณควรที่จะตรวจเช็กโช๊คอัพรถยนต์ของคุณบ้าง เพราะหากมันเสีย มีปัญหา หรือเสื่อมสภาพ มันอาจจะสร้างความเสียหายไปยังช่วงล่างส่วนอื่นๆ อีกด้วย
ขอบคุณข้อมูล: auto.sanook.com
เครื่องจั๊มสตาร์ท
คุณภาพ มาตราฐาน USA
เพิ่มเราเป็นเพื่อน
add line ติดตามข่าวสาร
โปรโมชั่นส่วนลดสินค้า !